สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) เขต 10 อุบลราชธานี

 
 
รมว.สธ.เปิดโครงการคาราวานบริ...

รมว.สธ.เปิดโครงการคาราวานบริ...

รมว.สธ. พร้อมด้วยปลัดสธ.ลงพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ เปิดโครงการสำคัญ คาราวานบริการสุขภาพเคลื่อนที่ครอบคลุม 4 จังหวัด และประกาศข่าวดีต่อหน้าอสม.สี่พันคน เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2553 ฯพณฯ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดสธ. และคณะผู้บริหารสาธารณสุขเขต 13 ซึ่งได้แก่จังหวัดยโสธร ศรีสะเกษ อำนาจเจริญและอุบลราชธานี รวมทั้ง นพ.ธีรพล เจนวิทยา ผอ.สปสช. เขต 10 อุบลราชธานีและผวจ.อำนาจเจริญบุญสนอง บุญมี ได้เปิด โครงการสนองน้ำพระราชหฤทัยในหลวง ทรงห่วงใยสุขภาพประชาชนในเขต 13 ณ วัดมงคลมิ่งเมือง จ.อำนาจเจริญ เพื่อสร้างสุขภาพดีแก่ประชาชนทั้งสี่จังหวัด ด้วยหน่วยบริการสุขภาพเคลื่อนที่ 63 หน่วย ตรวจคัดกรองพฤติกรรมสุขภาพ ตรวจสุขภาพ บริการทันตกรรม รับบริจาคโลหิต และฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง และผู้สูงวัย ลดปัญหาการเจ็บป่วยจากโรคต่างๆที่ป้องกันได้ เช่น เบาหวาน โรคมะเร็ง โรคความดันโลหิตสูง ต้อกระจก เบาหวานเข้าจอประสาทตา เป็นต้น ต่อจากนั้น ฯพณฯ จุรินทร์ ได้เปิดป้ายโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหนองไฮน้อย อ.ปทุมราชวงศา จ.อำนาจเจริญ โดยมีอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านหรือ อสม. และประชาชนประมาณสี่พันคนเข้าร่วมพิธี ฯพณฯ จุรินทร์ กล่าวว่า ในปีนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ขยายสิทธิให้ประชาชนในโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าได้รับการรักษาฟรี ในโรคที่ยากและซับซ้อนเช่น มะเร็ง โรคหัวใจ โรคจิต โรคไต โดยโรคไตสามารถผ่าตัดเปลี่ยนไตฟรี และมีโครงการช่วยเหลือคนพิการ โดยอบรมให้คนตาบอดใช้ไม้เท้าขาว ให้ดำรงชีพอิสระได้ ตั้งเป้าอบรม 80,000 คนภายใน 5 ปี และอบรมล่ามภาษามือช่วยคนหูหนวก ประการสำคัญ กระทรวงสาธารณสุขจะบริการรักษาฟรี ประชาชนที่อยู่ในโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ที่มีประมาณ 48 ล้านคน ให้ใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียว แสดงสิทธิรักษาฟรีได้ ไม่ต้องพกบัตรทองอีกต่อไป โดยจะเริ่มพร้อมกันทั่วประเทศ ในวันที่ 1 ตุลาคม 2553ฯพณฯ จุรินทร์ กล่าวต่อไปว่าในการจัดบริการสุขภาพให้ประชาชนที่อยู่ใน 7,000 กว่าตำบล กระทรวงสาธารณสุขได้ยกระดับหน่วยบริการที่เล็กที่สุดและอยู่ใกล้ประชาชนคือสถานีอนามัยกว่า 9,000 แห่ง ให้เป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้ จะดำเนินการ 2,000 แห่ง ส่วนที่เหลือจะให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ ใช้งบประมาณพัฒนาทั้งหมด 7,500 ล้านบาท โดยจะปรับปรุงอาคารสถานที่ เพิ่มบุคลากรเป็นอย่างน้อย 4 คน ไม่รวมลูกจ้าง โดยโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทุกแห่ง จะมีแผนพัฒนาสุขภาพของประชาชนที่ดูแลร่วมกับ อสม. ตามสภาพปัญหาในพื้นที่ และรัฐบาลมีนโยบายให้จัดตั้งกองทุนสุขภาพตำบล เพื่อพัฒนาสุขภาพประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง สำหรับ อสม.ประมาณหนึ่งล้านคน กระทรวงสาธารณสุขได้ดูแลเรื่องสิทธิเรื่องต่างๆ 6 ตลอดจนการออกกฎหมายรองรับสถานภาพ อสม. เป็นครั้งแรก เป็นระเบียบกระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่การรับเข้าเป็น อสม. การอบรมพัฒนา สิทธิประโยชน์ และการพ้นสภาพ คาดว่าจะประกาศใช้ได้ภายใน 3 เดือน



Project Manager: นางพรทิพย์  สาระบุตร
โทรศัพท์: 045-240591
มือถือ: 090-197-5236
E-mail: porntip.s@nhso.go.th
วันที่ลงข่าว: 13/07/2553