| สปสช.เขต 10 อุบลฯ ลงนามจัดตั้ง... |
|---|
สปสช.เขต 10 อุบลฯ ลงนามจัดตั้ง...
เมื่อ วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2556 ที่ ห้องประชุมมรกต โรงแรม เจ.พี.เอ็มเมอรัลด์ จังหวัดยโสธร นายประวัติ ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เป็นประธานเปิดแถลงข่าวและลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) การตั้งกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพที่จำเป็นต่อสุขภาพ จังหวัดยโสธร ระหว่าง สำนักงานประกันสุขภาพแห่งชาติเขต 10 อุบลราชธานี โดยนพ.เรืองศิลป์ เถื่อนนาดี ผู้อำนวยการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 10 อุบลราชธานี และองค์การบริหารส่วนจังหวัดยโสธร โดยนายตรงสิทธิ์ ตั้งจตุรวิธ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดยโสธร ซึ่งมี นพ.สุใหญ่ หลิ่มโตประเสริฐ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยโสธร เข้าร่วมลงนามด้วย นพ.สุใหญ่ หลิ่มโตประเสริฐ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยโสธร และเป็นผู้อำนวยการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สาขาจังหวัดยโสธร เปิดเผยว่า การลงนามข้อตกลงดำเนินงานและบริหารจัดการกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพที่จำเป็นต่อสุขภาพระดับจังหวัด เพื่อให้ความช่วยเหลือคนพิการ ผู้สูงอายุ ในเขตพื้นที่จังหวัดยโสธร ให้ได้รับโอกาสในการเข้าถึงบริการและได้รับการดูแลช่วยเหลือจากภาครัฐอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ซึ่งเป็นการป้องกันและลดความพิการ การเจ็บป่วย การสูญเสียอวัยวะ ตลอดจนเพิ่มศักยภาพในการดำรงชีวิตของคนพิการและผู้สูงอายุ รวมถึงผู้ที่อยู่ในระยะที่จำเป็นต้องได้รับการฟื้นสมรรถภาพ ให้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น โดยจัดให้คนพิการและผู้สูงอายุได้รับบริการทางการแพทย์ที่จำเป็นจากหน่วยบริการ สถานบริการหรือองค์กรอื่น ๆ รวมทั้งได้รับเครือข่าย กายอุปกรณ์ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องทางการแพทย์อย่างครอบคลุม นอกจากนี้ยังมีบทบาทในการส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาระบบบริการและพัฒนารูปแบบ การฟื้นฟูสมรรถภาพของหน่วยบริการให้เชื่อมโยงกันทุกระดับอย่างทั่วถึง พร้อมทั้งสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพและความเข็มแข็งขององค์กรคนพิการ องค์กรผู้สูงอายุ และองค์กรอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้สามารถร่วมมือกับหน่วยบริการและมีส่วนร่วมดูแลสุขภาพ การฟื้นฟูสมรรถภาพด้วยตนเองได้ สำหรับการจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพที่จำเป็นต่อสุขภาพระดับจังหวัดยโสธร ในครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเขต 10 จำนวน 1,000,000 บาท องค์การบริหารส่วนจังหวัด จำนวน 1,000,000 บาท รวมเป็น 2,000,000 บาท และในการลงนามในครั้งนี้ จะช่วยให้คนพิการ และผู้ที่อยู่ในระยะจำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพด้วยตนเอง (ท.74) จำนวน 15,445 คน ซึ่งเป็นผู้มีบัตรประจำตัวคนพิการ จำนวน 14,782 คน ที่เข้ารับบริการตามประเภทความพิการคือ การมองเห็น จำนวน 3,143 คน การได้ยิน จำนวน 1,684 คน การเคลื่อนไหว จำนวน 5,174 คน พิการทางจิตพฤติกรรมและออทิสติก จำนวน 1,111 คน สติปัญญาและการเรียนรู้ จำนวน 1,628 คน
|
